เคยสงสัยกันไหมครับ ว่าน้ำหอมผู้ชายตามเคาน์เตอร์แบรนด์ต่างๆ ที่ออกกลิ่นมาใหม่ มักจะมีกลิ่นที่ใกล้เคียงกันหลายแบรนด์ นี่คือน้ำหอมกลิ่นเดียวกันทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วหากลองสังเกตดีๆ จะพบว่าน้ำหอมเหล่านี้มีทั้งความคล้ายและความแตกต่างกันอยู่
สาเหตุที่ทำให้น้ำหอมผู้ชายแตกต่างจากน้ำหอมผู้หญิง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าร่างกายของผู้ชายมีการขับเหงื่อและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์แตกต่างกับผู้หญิงโดยสิ้นเชิง ยิ่งผู้ชายที่เล่นกีฬาในประเทศเมืองร้อนอย่างเมืองไทย ร่างกายจะยิ่งเผาผลาญดีกว่าคนทั่วไป ทำให้มีการขับเหงื่อในปริมาณที่สูงกว่าคนปกติ ทำให้กลิ่นน้ำหอมที่เหมาะกับผู้ชายกลุ่มนี้จะเปิดด้วยท็อปโน้ต (Top Note) โทนซิตรัส (Citrus) หรือกลิ่นที่ให้ความสดชื่น (Fresh) เป็นหลัก เพื่อดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ขับออกมากับเหงื่อไม่ให้ไปรบกวนคนข้างๆ นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้กลิ่นเปิดในน้ำหอมดีไซเนอร์หลายแบรนด์มีความคล้ายคลึงกัน
โดยท็อปโน้ตที่เรามักจะเห็นบ่อยๆ ได้แก่ มะนาวเขียว (Lime), มะนาวเหลือง (Lemon), มะกรูดฝรั่ง (Bergamot), ส้ม (Orange), เกรปฟรุต (Grapefruit) และตะไคร้ (Lemongrass) ซึ่งในบางกลิ่นอาจมีผลไม้ (Fruity) เป็นส่วนประกอบด้วย เช่น สับปะรด (Pineapple) และแอปเปิลเขียว (Green Apple) ซึ่งจะสังเกตได้ว่าผลไม้ที่นำมาเป็นส่วนประกอบก็จะให้กลิ่นโทนหวานอมเปรี้ยวเช่นกัน ส่วนอีกโทนที่นิยมใช้ในน้ำหอมผู้ชายช่วงฤดูร้อนก็คือโทนที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มกลิ่นตระกูลอโรมาติก (Aromatic) ได้แก่ ลาเวนเดอร์ (Lavender), ยูคาลิปตัส (Eucalyptus), โรสแมรี (Rosemary), คลารี เซจ (Clary Sage) และมินต์ (Mint) โดยตัวอย่างน้ำหอมที่นิยมสำหรับผู้ชายได้แก่
1.DAVIDOF COOL WATER FOR MEN EDT 200ML SEAL
น้ำหอมกลิ่นเย็นๆสะอาด เบาๆ DAVIDOFF Cool Water Men นับเป็นอีกกลิ่นน้ำหอมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หรือเรียกได้ว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมที่ผู้ชายทุกท่านต้องมีติดบ้านไว้ และด้วยความที่อยู่ในตลาดมานานถึง 30 ปี ทำให้กลิ่นน้ำหอมนี้ถูกจัดอันดับเป็นน้ำหอมอันดับต้นๆด้วยกลิ่นแนว Aromatic Fresh ที่ให้ทั้งความสดชื่น ราวกับว่าคุณกำลังอยู่ในท้องทะเล กลิ่นนี้เปิดสัมผัสแรกด้วย Pepper Mint ที่ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น ตามมาด้วยสัมผัสที่สองอย่างดอก Lavender ที่ให้ความรู้สึกที่หอมหวาน เปี่ยมด้วยพลัง และปิดท้ายด้วย Amber ซึ่งให้ความรู้สึกที่เย้ายวน
ราคาขาย 1,250 .-บาท
2.Dolce & Gabbana light Blue Women edt 100ml Seal
น้ำหอมหอมเปี่ยมเสน่ห์ ที่หลายๆ คนต่างพากันหลงรักกันทั่วโลก เหมาะกับคนชอบน้ำหอมกลิ่นหอมสะอาดๆ บริสุทธิ์ ออกสปอร์ตเล็กๆ แต่ก็ยังFeminine แนวกลิ่นจะไม่หวานมาก อมเปรี้ยวแบบซิตรัสเล็กๆ ให้อารมณ์แบบเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เหมาะใช้กับทุกโอกาสเลย
ราคาขาย 2,050 .-บาท
3.CALVIN KLEIN CK ONE 200ML SEAL
เป็นน้ำหอมที่ใครๆก็รู้จักกลิ่นสุดเบสิค หอมสดชื่น มีไว้เป็นยาสามัญประจำโต๊ะเครื่องสำอางค์ได้เลย ครับ วันไหนคิดอะไรไม่ออกหยิบCkOneฉีดออกจากบ้านชิวๆ เหมาะสำหรับชายและหญิงทุกเพศทุกวัย เป็นอีกตัวที่ราคาไม่แพง
ราคาขาย 1,150 .-บาท
4.POLO RALPH LAUREN SPORT EDT 125ML TESTER
โปโล สปอต POLO SPORT for men ขนาด 100ml.กลิ่นสปอร์ตๆ แบบแมนๆเลยค่ะ น้ำหอมตัวนี้พิเศษคือทำมาเพื่อเล่นกีฬา ฉะนั้นเวลาผสมกันเหงื่อเวลาเล่น และผสมกับสารที่ร่างกายเราหลั่งออกมา จะให้ความรู้สึกสดชื่นเป็นน้ำหอมชายที่มาในแนวกลิ่น Aromatic Green ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและมีพลัง นับเป็นอัก 1 รุ่นอมตะที่อยู่ในวงการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1994 Top notes ประกอบด้วย aldehydes, artemisia, lavender, mandarin orange, mint, neroli, bergamot และ lemon ตามด้วย middle notes จาก cyclamen, ginger, seagrass, jasmine, rose, brazilian rosewood และ geranium จากนั้นจึงปิดท้ายด้วย base notes อย่าง sandalwood, amber, musk, guaiac wood และ cedar.
ราคาขาย 1,920 .-บาท
5.Dolce and Gabbana D&G Light Blue Men EDT 125 ml Tester
น้ำหอมสำหรับผุ้ชายที่ได้แรงบันดาลใจจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ความหอมเย็นสดชื่นสุดเซ็กซี่ยามต้องน้ำทะเล น้ำสีฟ้าที่บ่งบอกความสงบเยือกเย็น แฝงความเร้าร้อนด้วยเกรียวคลื่นกระทบฝั่ง ดั่งบุรุษที่โหยหาสตรี
ราคาขาย 1,500 .-บาท
เมื่อเราสังเกตดีๆ น้ำหอมที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ แม้ว่าในช่วงเปิดหรือท็อปโน้ตจะมีกลิ่นของซิตรัส หรืออโรมาติกก็ตาม อีกจุดที่เห็นได้ชัดเจนก็คือโน้ตช่วงมิดเดิล (Middle Note) และโน้ตช่วงท้าย (Base Note) ก็มีความคล้ายคลึงกัน แม้จะใช้แหล่งที่มาของกลิ่นที่แตกต่างกัน แต่กลิ่นเหล่านี้ก็จัดอยู่ในตระกูลเดียวกันเกือบทั้งหมด นั่นคือเครื่องเทศที่สดชื่น (Fresh Spicy), ยางไม้ที่ให้กลิ่นสดชื่น (Fresh Balsamic) และไม้ (Woody) เพื่อลดจุดอ่อนของกลิ่นตระกูลซิตรัสและอโรมาติกที่ไม่ค่อยติดทนบนผิวมากนัก ทำให้กลิ่นติดทนนานมากขึ้น และไปในทิศทางเดียวกันกับท็อปโน้ต แต่จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในเรื่องของรายละเอียดบางจุดเท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับแนวทางและลักษณะเด่นของแต่ละแบรนด์
ดังนั้นการที่เราจะแยกน้ำหอมที่มีกลิ่นใกล้เคียงกัน เราจึงไม่ควรทดสอบน้ำหอมแค่บนกระดาษเทสเตอร์ แล้วดมในช่วงท็อปโน้ตเพียงอย่างเดียว แต่ควรลองบนผิวของเราจริงๆ ออกไปทำกิจกรรม และสังเกตการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งวิธีนี้คือการทดสอบน้ำหอมบนตัวเราที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อดูความเข้ากันของน้ำหอมกับผิวเรา เพราะบางครั้งเราอาจไม่ได้เป็นผู้เลือกน้ำหอม แต่น้ำหอมต่างหากที่เลือกเรา
ลองดูกันน่ะครับ ถ้าหลงไหลน้ำหอมแล้วจะเริ่มเข้าใจได้มากขึ้นว่าน้ำหอมที่เข้ากับบุคลิกเราระดับไหน ถ้า น้ำหอมหยิ่งทนกลิ่นก็จะยิ่งฉุน แต่ล่ะตัวจะมีข้อดีข้อเสียที่ต่าง ลองศึกษาดีๆ ก่อนซื้อน่ะครับ สำหรับวันนี้ขอลาเพียงเท่านี้น่ะครับ สวัดดีครับ 🙏🙏
หวังว่า Blog นี้จะอ่านแล้วจะชอบกันนะครับ หากลูกค้าสนใจน้ำหอมตัวไหน คลิกเข้าไปดูกันได้เลยที่
ร้านค้า www.meilleurperfume.com/ ,
เพจ facebook www.facebook.com/meilleurperfume1
Line. @perfumeangle
ร้านมีแบบกล่องซีล / กล่องขาย / กล่องเทสเตอร์ / กล่องจิ๋ว ไว้ให้เลือกใช้ ตัวหอมๆกันนะครับ